เมื่อพูดถึงจังหวัดแพร่ ก็ต้องนึกถึงวัดศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวัดประจำจังหวัด เป็นเอกลักษ์ของจังหวัดแพร่ นั่นคือ "วัดพระธาตุช่อแฮ" เป็นวัดคู่บ้าน คู่เมือง ใครที่มาเที่ยวจังหวัดแพร่แล้วจะต้องมานมัสการพระธาตุช่อแฮ เพื่อเป็นศิริมงคลกับตนเอง จนมีคำพูดที่ว่า "ถ้ามาจังหวัดแพร่ แต่ไม่ได้มาวัดพระธาตุช่อแฮเหมือนมาไม่ถึงจังหวัดแพร่"

วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่

banner Hugphrae Travel

วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแพร่ และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 11 ถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

การเดินทางมาเที่ยววัดพระธาตุช่อแฮ ถนนสายหลัก คือ ถนนช่อแฮ เริ่มตั้งแต่สี่แยกบ้านทุ่ง อำเภอเมืองแพร่ ซึ่งเป็นสี่แยกใจกลางเมืองแพร่ เข้าสู่ถนนช่อแฮ และตรงไปตามถนนช่อแฮ ผ่านโรงพยาบาลแพร่ สนามบินจังหวัดแพร่ หมู่บ้านเหล่า หมู่บ้านนาจักร หมู่บ้านแต (กวีรัตน์) หมู่บ้านมุ้ง สถานที่ตั้งของวัดพระธาตุช่อแฮอยู่ในบริเวณเขตเทศบาลตำบลช่อแฮ ด้วยระยะทาง 9 กิโลเมตร จากตัวเมืองจังหวัดแพร่

ร้านของของที่ระลึกบริเวณลานจอดรถ วัดพระธาตุช่อแฮ

 

บันไดทางขึ้นไปนมัสการพระธาตุช่อแฮ จะสามารถมองเห็นซุ้มประตูสีขาวโดดเด่นสวยงาม

 

กำแพงขอบเขต “องค์พระธาตุช่อแฮ” ระฆัง ภายในวัดพระธาตุช่อแฮ หลวงพ่อทันใจประดิษฐานอยู่ภายในวิหารหลังเล็กๆ อยู่ด้านนอกระเบียงคต ว่ากันว่าหากใครจะอธิฐานขอพรกับหลวงพ่อทันใจ มักจะสมหวัง

วัดพระธาตุช่อแฮ 07

พระประธาน พระอุโบสถของวัดพระธาตุช่อแฮ ความสวยงามขององค์พระประธานและภาพจิตรกรรมผนังภายในอุโบสถ วัดพระธาตุช่อแฮ ความสวยงามภายในพระอุโบสถของวัดพระธาตุช่อแฮ

ความสวยงามภายในพระอุโบสถของวัดพระธาตุช่อแฮ

ตำนานพระธาตุช่อแฮจากข้อมูลประชาสัมพันธ์ของทางวัดพระธาตุช่อแฮ

ตำนานพระธาตุช่อแฮอีกทางหนึ่ง กล่าวถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าได้เสด็จมาถึงเมืองพล (เมืองแพร่) ประทับ ณ ดอยโกสัยธชัคคะบรรพต ขณะนั้นมีหัวหน้าชาวลั๊วะนามว่าขุนลั๊วะอ้ายค้อม (อ่านว่า “ก้อม” ) ได้มากราบไหว้พระพุทธเจ้าที่บนดอยนี้ พระพุทธเจ้าได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ขุนลั๊วะอ้ายค้อมเห็น เนื่องจากสถานที่นี้เป็นที่ร่มรื่น เหมาะสมที่จะตั้งเป็นสถานที่ไว้ในพระพุทธศาสนา พระองค์ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุที่ระลึก

โดยเอาเส้นพระเกศาเส้นหนึ่งให้แก่ขุนลั๊วะอ้ายก้อมไว้ มีรับสั่งให้เอาเส้นพระเกศานี้ไปไว้ในถ้ำที่อยู่ใกล้บริเวณนี้ พระองค์มีรับสั่งอีกว่าเมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ให้เอาพระบรมสารีริกธาตุพระศอกข้างซ้ายมาบรรจุไว้ ณ สถานที่นี้ และต่อไปภายหน้าจะได้ชื่อว่าเมืองแพร่ โดยเป็นเมืองใหญ่ซึ่งพระองค์เคยเสด็จประทับนั่ง ณ ใต้ต้นหมากนี้ เมื่อทรงทำนายแล้วก็เสด็จจาริกไปยังเมืองต่าง ๆ ที่ทรงเห็นว่าควรจะเป็นที่ตั้งพระธาตุได้ จากนั้นจึงเสด็จกลับไปยังพระเชตวันอารามและหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว 218 ปี ตรงกับสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช พระเจ้าอโศกมหาราชและพระอรหันต์ทั้งปวงได้ร่วมกันอธิษฐานว่าเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่นั้น เคยเสด็จไปยังถิ่นฐานบ้านเมืองหลายแห่ง แล้วทรงหมายสถานที่ที่ควรจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้

จึงขออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ได้บรรจุในโกศที่เตรียมไว้นั้นไปสถิตอยู่ในสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงหมายไว้นั้นเถิด เมื่ออธิษฐานแล้วพระบรมสารีริกธาตุทั้งหลายก็เสด็จออกจากโกศโดยทางอากาศไปตั้งอยู่ที่แห่งนั้น ๆ ทุกแห่ง ส่วนพระบรมสารีริกธาตุเหลืออยู่ พระอรหันต์ทั้งปวงก็อัญเชิญไปบรรจุในพระเจดีย์ 84,000 องค์นั้น แล้วประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้พิทักษ์รักษาตลอดไป จนกว่าจะหมดอายุแห่พระพุทธศาสนา 5,000 พระวัสสา กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระธาตุช่อแฮ เป็นโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 และได้ประกาศกำหนดขอบเขตโบราณสถาน เล่มที่ 97 ตอนที่ 159 ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2523

สำหรับชื่อพระธาตุช่อแฮนั้น บ้างว่าได้มาจากชื่อผ้าแพรชั้นดีซึ่งทอจากสิบสองปันนาที่ชาวบ้านนำมาผูกบูชาพระธาตุ บ้างก็ว่ามาจากผ้าแพรที่ขุนลัวะอ้ายก๊อมนำมาถวาย ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 9 ค่ำ- ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 (ประมาณเดือนมีนาคม)

มาแพร่ต้องแวะมานมัสการ “พระธาตุช่อแฮ”  ให้ได้นะค่ะ

หมายเหตุ : ทุกปีจะมีประเพณีการไหว้พระธาตุช่อแฮ เริ่มในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6 เหนือ (เดือน 4) ของทุกปี

ขอบคุณค่ะ
น้องฮักแพร่
[email protected]

ขอบคุณข้อมูล บทความเกี่ยวกับวัดพระธาตุช่อแฮจาก ; http://th.wikipedia.org